นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ จัดทำขึ้นโดย บริษัท ช่อลดาคอฟฟี่ จำกัด
บริษัท ช่อลดา คอฟฟี่ จำกัด (“บริษัท”) ได้จัดให้มีประกาศนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เพื่อให้ลูกค้าผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท รวมถึงลูกค้ามุ่งหวัง ผู้ใช้ ผู้เข้าชม (“ท่าน” หรือ“ลูกค้า” หรือ “ผู้ใช้บริการ” ) ได้รับทราบถึงนโยบายของบริษัท เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ( “พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” ) กฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยประกาศนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลนี้ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวิธีการที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ประเภทข้อมูล และวัตถุประสงค์ในการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก สิทธิของท่าน การรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และวิธีการที่ท่านสามารถติดต่อบริษัท
นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ครอบคลุมการให้บริการต่าง ๆ ของบริษัท ทั้งทางเว็บไซต์, แอพพลิเคชั่น, โซเชียลมีเดียและช่องทางอื่น ๆ แก่ลูกค้า และผู้มาติดต่อกับบริษัท แต่ไม่ใช้บังคับกับลูกจ้างและผู้สมัครงานกับบริษัท ท่านยอมรับว่า การที่ท่านใช้บริการของบริษัทผ่านทางช่องทางต่าง ๆ หรือการให้ข้อมูลกับบริษัท ถือว่าท่านได้ยอมรับวิธีปฏิบัติของบริษัทตามที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้แล้ว ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายในการพัฒนาและปรับปรุงการให้บริการให้มีความทันสมัย มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ บริษัทจึงอาจมีการปรับปรุงแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว จึงขอให้ท่านตรวจสอบนโยบายนี้เป็นระยะ ๆ เพื่อที่ท่านจะได้ทราบนโยบายความเป็นส่วนตัวล่าสุดของบริษัท
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ข้อ 1 นิยามข้อมูลส่วนบุคคล
“ ข้อมูลส่วนบุคคล ” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ทั้งนี้ เป็นไปตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
ข้อ 2 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บมาจากช่องทางใดบ้าง
บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากท่านโดยตรงและโดยอ้อม อันได้แก่ข้อมูลที่ท่านได้ให้กับบริษัท ดังนี้
- การติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านเว็บไซต์ www.raicholadacoffee.com หรือเว็บไซต์อื่น ๆ ของบริษัท
- ผ่านสื่อโซเชี่ยลมีเดียต่าง ๆ อันได้แก่ Application Line , Facebook Fanpage, Instragram และอื่น ๆ
- ผ่านการใช้บริการซื้อสินค้าและวัตถุดิบกับทางบริษัทในทุกช่องทาง
- ผ่านทาง Call Center แผนกติดตามหลังการขาย และช่องทางอื่น ๆ ของบริษัท
- จากข้อมูลการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในแพลตฟอร์ม, แบบสำรวจ, งานสัมมนา และงาน Road Show ต่าง ๆ
ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้เป็นปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงคุณภาพ และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และการให้บริการของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น
2.2 ข้อมูลและวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
- ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล, อายุ, วันเดือนปีเกิด, เพศ, สถานภาพสมรส, เลขประจำตัวประชาชน, เลขหนังสือเดินทาง หรือข้อมูลการยืนยันตัวตนอื่น ๆ ที่รัฐออกให้, ที่อยู่ไปรษณีย์, สถานที่ทำงาน, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล, ไอดีไลน์, IP address, Cookie ID, ข้อมูลเบราว์เซอร์และข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ท่านใช้เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น และช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ของบริษัท
- ข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขบัญชีเงินฝาก ประวัติทางการเงิน รายการทรัพย์สิน รายการเดินบัญชี
- ข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น การลงทุน คำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุน รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านเคยซื้อ ใช้ พิจารณา หรือแนวโน้มการซื้อหรือใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการต่าง ๆ ของท่าน
- ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ต แอพพลิเคชั่น หรือโครงข่ายอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เช่น ประวัติในการเยี่ยมชม ค้นหา และปฏิสัมพันธ์ของท่านกับเว็บไซต์ของบริษัท หรือโฆษณาต่าง ๆ ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากคุกกี้ แท็กพิกเซล และเทคโนโลยีการติดตามอื่น ๆ
- ข้อมูลเสียง ภาพ หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่อาจบ่งชี้ตัวบุคคลได้ ซึ่งอาจรวมถึง ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์
- ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ( Sensitive Data ) บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ ศาสนา ข้อมูลสุขภาพของลูกค้า ข้อมูลชีวภาพ ความทุพพลภาพ หรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอื่นใด ที่จะเป็นประโยชน์ในการให้บริการ ต่อเมื่อบริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นตามที่กฎหมายอนุญาต โดยบริษัทอาจต้องเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลชีวภาพ (Biometric ) เช่น ข้อมูลอัตลักษณ์เสียง เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของลูกค้า และ/หรือทำธุรกรรมผ่านเว็บไซต์ Call Center หรือช่องทางอื่นใด เป็นต้น
2.3 ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ให้เสร็จสิ้น เว้นแต่กรณีที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตให้เก็บรักษาข้อมูลไว้นานกว่า ซึ่งอาจมีกำหนดประมาณ 5 – 10 ปี หรือเกินกว่านั้นเท่าที่จำเป็น เช่น ตามอายุความที่กฎหมายกำหนดสำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้อง เพื่อการดำเนินคดี หรือเพื่อการตรวจสอบของหน่วยงานที่กำกับดูแล
ข้อ 3 วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องด้วยเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโดยได้รับความยินยอมจากท่าน หรือเนื่องด้วยเหตุอันชอบด้วยกฎหมายอื่น ๆ ทั้งนี้ เท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
- เพื่อบริการให้ตรงตามความต้องการของท่าน บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อที่ท่านจะสามารถได้รับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่ตรงตามวัตถุประสงค์ของท่านตามสัญญา หรือตามที่ท่านร้องขอ ในกรณีดังต่อไปนี้
o เพื่อยืนยันการแสดงตัวตน ก่อนการเข้ารับบริการแก่ท่าน
o เพื่อการพิจารณาอนุมัติและ/หรือให้บริการต่าง ๆ เช่น การเปิดบัญชีลูกค้าเพื่อทำการซื้อขายกับบริษัท
o เพื่อการปฏิบัติตามข้อตกลง หรือสัญญาต่าง ๆ
o การดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่าง ๆ เช่น การประมวลผล การติดต่อ การแจ้ง การมอบงานให้แก่บุคคลอื่นที่เป็นผู้ให้บริการภายนอก การโอนสิทธิและ/หรือหน้าที่
หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์และ/หรือให้บริการแก่ท่านได้
- เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายภาษีอากร กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายคอมพิวเตอร์ และกฎหมายล้มละลาย บริษัทมีการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลของกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทนของลูกค้านิติบุคคล และบุคคลที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย รวมถึงบริษัทอาจมีความจำเป็นที่จะต้องให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์และ/หรือให้บริการแก่ท่านได้
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เช่น
o มาตรการรักษาความปลอดภัย บริษัทมีการบันทึกเสียงทาง Call Center การบันทึกภาพ CCTV ณ ทุกทางเข้าออก และในบริเวณสำนักงานของบริษัท และติดตั้งสัญญานเตือนภัย ป้องกันการบุกรุก โดยบริษัทผู้ให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยชั้นนำ ของประเทศไทย
o การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การจัดการข้อร้องเรียน การประเมินความพึงพอใจ การดูแลลูกค้าโดยพนักงานของบริษัท การสื่อสารหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่าง ๆ ประเภทเดียวกันกับที่ท่านมีอยู่กับบริษัทซึ่งเป็นประโยชน์กับท่านเป็นระยะ ๆ
o การบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบ การบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การทุจริต การคุกคามทางไซเบอร์ การฟอกเงิน และกฎหมายอื่น ๆ
o การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (Anonymous Data)
- วัตถุประสงค์ทางธุรกิจ บริษัทมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้บริการ และ/หรือเพื่อ
o เพื่อสื่อสาร ตอบกลับ และให้ความช่วยเหลือแก่ท่าน รวมถึงเพื่อการให้บริการหลังการขาย
o เพื่อการส่งพัสดุ-ไปรษณีย์ เช่น การติดต่อสอบถามถึงความพึงพอใจในสินค้าและบริการของบริษัท การแจ้งเตือนกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือให้ส่วนลดพิเศษอื่น ๆ
o เพื่อให้ข้อมูล ให้คำแนะนำ ประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับ สินค้า บริการ หรือกิจกรรมทางการตลาดผ่านทางช่องทางที่ท่านให้ไว้ รวมถึงเพื่อการนำเสนอสินค้าและบริการของบริษัทฯ รวมไปถึงเพื่อบริหารและจัดการข้อมูลของท่านในการจัดกิจกรรมทางการตลาด ของบริษัท ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขในการเข้าร่วมกิจกรรมในแต่ละครั้ง
o เพื่อการวิจัยและพัฒนาสินค้าและบริการของบริษัท
o ประโยชน์ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ หรือประชาสัมพันธ์บริษัท เช่น การบันทึกภาพ บันทึกเสียงในการจัดประชุม อบรม สันทนาการ หรือการออกบูธ ในกรณีที่ท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
- เพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์จากการใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ เช่น เพื่อให้ท่านได้รับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน เพื่อให้ท่านได้รับข้อเสนอ สิทธิประโยชน์พิเศษ คำแนะนำ และข่าวสารต่าง ๆ รวมถึงสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ เป็นต้น ในกรณีที่ท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
ข้อ 4 การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค และมาตรการเชิงบริหารจัดการ เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล การสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไข การนำข้อมูลไปใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ ทั้งนี้ ท่านมีความเป็นอิสระในการให้ความยินยอมในการที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะไม่กำหนดเงื่อนไขในการให้ความยินยอมเพื่อให้เข้าถึงการรับบริการ หรือเข้าทำสัญญากับบริษัท หากข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่มีความจำเป็น หรือเกี่ยวข้องสำหรับการเข้าทำสัญญาหรือการรับบริการนั้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้กำหนดให้พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และผู้รับข้อมูลจากบริษัท มีหน้าที่รักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับและมีความปลอดภัยตามมาตรการที่บริษัทกำหนด เมื่อต้องมีการดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ในกรณีที่ท่านเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลท่านใดเป็นผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ถือเป็นผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การให้ความยินยอมของท่านต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำแทนท่านด้วย หากผู้จะให้ความยินยอมนั้นเป็นผู้เยาว์ที่อายุไม่เกิน 10 ปี ต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองนั้นโดยตรง
ในกรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลท่านใดเป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ ต้องขอความยินยอมจากผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจกระทำการแทนบุคคลไร้ความสามารถหรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถนั้นแล้วแต่กรณี
บริษัทฯ จะดำเนินการให้ข้อมูลของท่านนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
ข้อ 5 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลใด โดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่านก่อน อย่างไรก็ดี ท่านรับทราบและยินยอมว่า เพื่อประสิทธิภาพในการให้บริการหรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลต่อไปนี้ ได้แก่
- บริษัทในเครือ, พันธมิตรทางธุรกิจ, ผู้ให้บริการประมวลผลข้อมูล,หน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้เป็นความลับ และไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น นอกเหนือจากขอบเขตที่บริษัทได้กำหนดไว้ ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับจากท่าน จะถูกเก็บไว้บนศูนย์ข้อมูลของบริษัท ซึ่งมีเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
- ในบางกรณีอาจมีการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าของบริษัท ไปยังผู้ให้บริการประมวลผลข้อมูลภายนอกดังกล่าว อาจมีวัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยในการเก็บรักษา การสำรองข้อมูล บริการเรียกข้อมูล และเพื่อประโยชน์ในการให้บริการ ซึ่งบริษัทได้ตรวจสอบและเลือกผู้ให้บริการอย่างรอบคอบ และมีข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และขอบเขตการประมวลผลข้อมูลกับผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง โดยในกรณีที่ผู้ใช้บริการให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท จะถือว่าผู้ใช้บริการได้ให้ความยินยอมในการถ่ายโอนข้อมูล และการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น อย่างไรก็ดี หากท่านเชื่อว่าบุคคลที่บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการตามข้างต้น ได้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่บริษัทได้กำหนดไว้ ท่านสามารถแจ้งบริษัทตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เพื่อดำเนินการในส่วนเกี่ยวข้องต่อไป
- นอกจากนี้ บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลการให้บริการ หรือหน่วยงานกำกับดูแลผู้ใช้บริการ รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย อาทิ การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือเป็นการร้องขอจากหน่วยงานเอกชน หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงในกรณีที่มีความจำเป็นตามสมควรในการบังคับใช้ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการของบริษัท ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูลในกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมบริษัท หรือการขายกิจการ บริษัทอาจถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ไปยังบริษัทที่เกี่ยวข้อง
ข้อ 6 สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิดังนี้ ทั้งนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ตามกฎหมาย ว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปของประเทศไทยที่ใช้บังคับ
- ท่านสามารถขอเข้าถึง ขอสำเนา ขอแก้ไขหรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท ให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
- ท่านสามารถถอนความยินยอม โดยการติดต่อตามช่องทางที่บริษัทจัดเตรียมไว้ตามข้อ 8 บริษัทขอเรียนว่า หากท่านถอนความยินยอม ท่านอาจจะเสียสิทธิได้รับข้อมูลข่าวสาร หรือ สิทธิประโยชน์ รวมถึง การติดต่อจากบริษัทฯ เพื่อสิทธิพิเศษและกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทฯ
- ท่านสามารถขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม
- ท่านสามารถคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณี ตราบเท่าที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยการติดต่อตามช่องทางที่บริษัทจัดเตรียมไว้ตามข้อ 8
- ท่านสามารถขอให้บริษัท ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในบางกรณี ตราบเท่าที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยการติดต่อตามช่องทางที่บริษัทจัดเตรียมไว้ตามข้อ 8
- การร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าว
ในกรณีที่มีการร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบหรือฐานข้อมูลลูกค้าของบริษัทนั้น บริษัทจะพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของท่าน เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่า การดำเนินการตามคำร้องขอนั้นจะเสี่ยงต่อการละเมิดนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการรายอื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลไว้เพื่อเป็นพยานหลักฐานในการตรวจสอบหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายที่ใช้บังคับ หรือเพื่อเป็นไปตามนโยบายความปลอดภัยของระบบ หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการ
อย่างไรก็ดี แม้ว่าบริษัทจะได้ดำเนินการตามคำร้องขอของท่านแล้ว ข้อมูลดังกล่าวอาจจะยังคงมีการบันทึกหรือทำสำเนาไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือระบบสำรอง (Backup System) ของบริษัท เพื่อเป็นการสำรองข้อมูลในกรณีที่เกิดความผิดพลาด บกพร่อง หรือเกิดจากความขัดข้องของระบบ การขอเข้าถึง และขอสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ของข้อมูลส่วนบุคคล การขอให้เปิดเผยและโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลอื่นด้วยวิธีการอัตโนมัติ การจำกัดหรือระงับการใช้ การปฏิเสธการประมวลผลข้อมูล ท่านสามารถขอ “แบบคำขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล” เพื่อกรอกข้อมูลและส่งให้กับบริษัทตามช่องทางที่บริษัทจัดเตรียมไว้ตามข้อ 8
ข้อ 7 การใช้คุกกี้ (Cookies)
“คุกกี้” (Cookies) คือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่จะถูกส่งไปเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของผู้ใช้บริการเพื่อเก็บข้อมูลในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ เพื่อการปรับปรุงเว็บไซต์และการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น
- บริษัทจะจัดเก็บคุกกี้ หรือ เทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานแพลตฟอร์มและการเข้าถึงบริการของบริษัท ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยจะใช้เพื่อกรณีดังต่อไปนี้
o เพื่อให้ท่านสามารถเข้าสู่ระบบบัญชีของท่านในแพลตฟอร์มของบริษัทได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัย
o เพื่อจัดเก็บข้อมูลการใช้งานแพลตฟอร์มของท่าน รวมถึงรูปแบบแพลตฟอร์มที่ท่านตั้งค่าไว้
o เพื่อจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบการใช้งานและความสนใจของท่าน เพื่อที่บริษัทจะได้พัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตรงกับความสนใจของท่านมากที่สุด และสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้สะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- ประเภทคุกกี้ที่บริษัท ใช้
o คุกกี้ประกอบการทำงานของแพลตฟอร์ม ใช้เพื่อการจดจำสิ่งที่ท่านเลือก หรือตั้งค่าบนแพลตฟอร์ม รวมไปถึงการนำเสนอข้อมูลที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคล เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ ภาษา และรูปแบบแพลตฟอร์ม
o คุกกี้สำหรับการโฆษณาใช้ในการจดจำสิ่งที่ท่านเคยเยี่ยมชม รวมไปถึงลักษณะการใช้งานของท่าน เพื่อนำเสนอสินค้า บริการ หรือ สื่อโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน และประเมินประสิทธิผลของแคมเปญโฆษณาต่าง ๆ
o คุกกี้ทางเทคนิค เป็นประเภทคุกกี้ที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานแพลตฟอร์ม เพื่อให้ท่านเข้าถึงข้อมูลได้อย่างทั่วถึงและปลอดภัย
o คุกกี้เพื่อวัดผลการทำงานของแพลตฟอร์ม ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลของผู้เข้าชมแพลตฟอร์มแบบไม่ระบุตัวตน และนำมาวิเคราะห์จำนวนและพฤติกรรมของผู้เข้าชม เพื่อปรับปรุงแพลตฟอร์มให้มีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น
o คุกกี้บุคคลที่สาม คุกกี้ชนิดนี้จะถูกกำหนดใช้โดยผู้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม
ข้อ 8 การตั้งค่าและการปฏิเสธคุกกี้ (Cookies)
ท่านสามารถเลือกปฏิเสธการทำงานของคุกกี้ได้ตามความต้องการของท่าน โดยการตั้งค่าเบราว์เซอร์ หรือการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของท่าน ( คำแนะนำวิธีการตั้งค่าคุ๊กกี้ให้ดูได้ในเบราว์เซอร์นั้น ๆ ) เพื่อระงับการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยคุกกี้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม หากท่านตั้งค่าเบราว์เซอร์หรือค่าความเป็นส่วนตัวของท่านด้วยการปฏิเสธการทำงานของคุกกี้ทั้งหมด ท่านอาจไม่สามารถใช้งานฟังก์ชั่นบางอย่างหรือทั้งหมดบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อ 9. การปรับปรุงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขปรับปรุงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้ โดยจะแจ้งให้ทราบถึงการแก้ไข เปลี่ยนแปลงดังกล่าว นอกจากนี้ บริษัทอาจจะแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่มเติม เช่น วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่อยู่นอกเหนือจากนโยบายฉบับนี้ ทั้งนี้ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หรือรายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล จะมีผลใช้บังคับทันทีที่บริษัทได้ดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบตามวิธีการที่บริษัทเห็นสมควร เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทจะต้องได้รับความยินยอมจากท่านตามกฎหมาย ซึ่งในกรณีเช่นนั้น การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หรือรายละเอียดอื่นใดเกี่ยวกับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลจะมีผลใช้บังคับเมื่อบริษัทได้รับความยินยอมจากท่าน
ข้อ 10 ข้อมูลของบริษัทและเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ตามที่อยู่ต่อไปนี้
บริษัท ช่อลดาคอฟฟี่ จำกัด
เลขที่ 1212/376 ถ.เลียบคลองรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 12130
ทางโทรศัพท์ : 0-2147-5247
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
เพื่อให้การปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ หากท่านมีข้อสงสัยหรือข้อแนะนำเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติของบริษัทเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถแจ้งได้ที่
ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล
โทรศัพท์ : 0-2147-5247 ต่อ 204
E-Mail : cholada.pantipa@gmail.com
นโยบายนี้ปรับปรุงล่าสุด เมื่อ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565
บริษัท ช่อลดาคอฟฟี่ จำกัด
เป็นเนื้อหาของบทความหรือสินค้าโดยละเอียด
กรุณาใส่ข้อความ …